ด้วงเขี้ยวกางหรือด้วงคีม มีชื่อสามัญว่า stag beetles คำว่า stag แปลว่าเขาของกวางตัวผู้ อยู่ในอันดับ Coleopter a วงศ์ Lucanidae ลำตัวค่อนข้างแบน มีกรามปากขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตาเหมือนเขากวางซึ่งเป็นที่มาของชื่อมันนั่นเอง ตัวผู้และตัวเมียมีกรามหรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่าเขี้ยว แต่ว่าใช้งานต่างกัน ในตัวผู้มีกรามปากไว้สำหรับป้องกันตัวเองหรือป้องกันถิ่นของมัน เมื่อถูกรุกรานมันจะใช้กรามปากของมันต่อสู้เพื่อปกป้องถิ่นของมัน หรืออาจจะใช้กรามปากของมันต่อสู้เพื่อแย่งตัวเมียกับตัวผู้อีกตัวหนึ่ง ตัวเมียก็มีคีมปากเช่นกันซึ่งทำให้เกิดคำถามมาว่าด้วงคีมเพศเมียต่อสู้กันด้วยหรือเปล่า คำตอบก็คือไม่ แต่กรามปากของตัวเมียมีไว้ใช้กัดไม้เพื่อวางไข่สืบทอดทายาทต่อไป
ด้วงคีมมีหลายขนาด หลายสายพันธุ์ และมีหลายสี ทำให้ด้วงคีมเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่นิยมมากในโลก และสามารถเพาะเลี้ยงได้ไม่ยาก ขอแค่มีความอดทนและมีความตั้งใจเท่านั้น เพราะตัวอ่อนของด้วงคีมบางชนิดกินเวลานานเกือบปีหรืออาจจะ2-3ปี บางชนิดก็ใช้เวลาเพียง3-4เดือนเท่านั้น ส่วนตัวเต็มวัยมีชีวิตอยู่ได้3-4เดือนหรืออาจจะ2-3ปีเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดและการเลี้ยงดูที่ดี ต้องหมั่นให้อาหารที่ดีมีประโยชน์ หมั่นพ่นน้ำเพื่อรักษาความชื้นภายในตู้ แค่นี้ด้วงก็จะอยู่กับเราได้อีกนาน และเราจำเป็นต้องรู้ด้วยว่าด้วงชนิดนั้นชอบวางไข่ในอะไร ในขอนไม้หรือวัสดุปูพื้นกันแน่ ก่อนเลี้ยงจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเพราะถ้าไม่หาข้อมูลให้ดีก่อนเลี้ยง ก็จะทำให้ด้วงไม่วางไข่และตายไปในที่สุด
หลายคนเคยพูดกับผมว่ามันสวยตรงไหน..เหมือนแมลงสาบจะตาย อายุสั้นแบบนี้เลี้ยงแล้วมันจะสนุกเหรอ แล้วเราเลี้ยงไปเพื่ออะไรกัน คำตอบที่ผมมักจะตอบไปก็คือ การเลี้ยงอะไรซักอย่างน่ะมันไม่จำเป็นว่ามันต้องสวย เลี้ยงไว้แล้วต้องสนุก หรือสามารถใช้งานได้ แต่ควรเลี้ยงเพราะมันให้ความรู้และประสบการณ์แก่เรา เราเลี้ยงด้วงถือเป็นการฝึกความอดทนรอเป็นปีเพื่อให้ด้วงตัวหนึ่งออกมาเป็นตัวเต็มวัยที่สมบูรณ์ได้ และมันทำให้เราเกิดความขยันในการหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อนำมาพัฒนาการเลี้ยงของเราและยังได้รู้จักการอนุกรมวิธาน(Taxonomy)อีกด้วย หากใครที่เรียนชีววิทยาของระดับมัธยมปลายมาแล้วก็น่าจะรู้จักดี ในเรื่องของข้อดีและข้อเสียในการเลี้ยงก็เห็นกันชัดเจนเลยว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสียแน่นอน สำหรับข้อเสียในสายตาของผมมองว่ามันแทบไม่มีด้วยซ้ำไป มันขึ้นอยู่กับการแบ่งเวลาที่ดีเท่านั้น เรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมากมายถ้าเทียบกับการเลี้ยงสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงทั่วๆไปที่คนเค้าเลี้ยงกัน ถ้ารู้อย่างนี้แล้วทำไมถึงไม่ลองเลี้ยงกันดูล่ะ เราพามันไปเดินเล่นไม่ได้ วิ่งเล่นกับมันก็ไม่ได้ แต่เราก็สามารถสนุกได้ สำหรับผมแล้ว..ผมสนุกที่ผมได้รับความรู้ใหม่ๆตลอดเกี่ยวกับด้วงโดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นด้วงคีมหรือด้วงกว่าง และสนุกที่สามารถเพาะได้แล้วนำไปบอกต่อให้คนอื่นๆได้รับรู้ว่ามันเพาะอย่างไร เลี้ยงอย่างไร และยากแค่ไหน ถ้าคุณได้ลองเลี้ยงดูซักครั้งแล้วประสบความสำเร็จผมว่าคงไม่มีใครอยากเลิกเลี้ยงแน่ๆ
แล้วทำไมถึงเลือกด้วงคีมล่ะ...ทำไมไม่เลือกด้วงกว่าง สำหรับผมแล้วผมว่าด้วงทั้งสองประเภทนั้นน่าสนใจเหมือนกัน ด้วงกว่างก็ตัวใหญ่ มีเขายาว ดูเท่ห์ไปอีกแบบ เลี้ยงก็ง่ายไม่เปลืองค่าอุปกรณ์มากนัก แต่ที่ผมเลือกด้วงคีมเพราะผมคิดว่าด้วงคีมมีความหลากหลายมากกว่าด้วงกว่างนั่นเอง ตัวสวยๆก็มีอยู่เยอะแยะมากมาย เช่น ด้วงคีมสมันทองเหนือ ด้วงคีมทอง ด้วงคีมกระทิงดำ ด้วงคีมเคอร์วิเดนส์ ด้วงคีมสายรุ้ง ด้วงคีมเนื้อทรายเชียงใหม่ ด้วงคีมยีราฟ ด้วงคีมเหลืองขีดวาย ด้วงคีมละมั่งเหลือง ด้วงคีมละมั่งแมนเป็นต้น บางคนมองว่าด้วงคีมเลี้ยงยาก เปลืองค่าไม้หรือค่าอุปกรณ์ และยังต้องเลี้ยงในที่เย็นอีกต่างหาก ถ้าคิดกันแบบนี้ผมว่าคุณคิดผิดแล้วล่ะครับ เพราะคุณยังไม่ลองเลี้ยงเองยังไงล่ะ หรืออาจจะเลี้ยงแล้วเพาะไม่สำเร็จเลยเกิดความรู้สึกท้อแท้ขึ้นมาและมองในทางลบไปเลยว่าด้วงคีมนั้นเพาะยาก แล้วถ้ามันเกิดกับด้วงกว่างอีกล่ะ คุณจะมองว่ามันเพาะยากมั้ย หรือจะหาคำตอบและพัฒนาการเลี้ยงต่อไป ถ้าเลือกที่จะพัฒนาต่อไปทำไมไม่ลองมาใช้กับด้วงคีมดูล่ะครับ อีกอย่างการเลี้ยงด้วงคีมไปพร้อมกับด้วงกว่างก็ทำได้ ไม่ใช่ว่าเจาะจงเลี้ยงได้แค่ประเภทใดประเภทหนึ่ง ถ้าคุณกำลังมองหาด้วงที่น่าสนใจแก่การเพาะเลี้ยงและศึกษา ผมว่าด้วงคีมก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยๆนะครับ.
ด้วงคีมยีราฟ Prosopoco ilus giraffa (Olivier, 1789)
ด้วงคีมเหลืองขีดวาย Prosopoco ilus suturalis (Olivier, 1789)
ด้วงคีมแดง Prosopoco ilus astacoide s (Hope, 1840)