หลังจากสอบกลางภาคเสร็จ ก็ว่างพอดีเลยแบกเป้ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี สามารถเดินทางไปได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถไฟ รถทัวร์ หรือรถตู้ ในทริปนี้ผมเดินทางโดยรถตู้ ขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี ค่ารถ110บาท เดินทางประมาณ2ชั่วโมง30นาทีครับ แนะนำให้ออกเช้าหน่อย เมื่อไปถึงจะได้มีเวลาเล่นน้ำ
เราจะลงกันที่ บขส.กาญจนบุรี เมื่อลงมาก็ให้มองรถคันสีฟ้าๆไว้เลย ข้างๆรถจะเขียนว่า กาญจนบุรี-เอราวัณ ค่ารถคนละ50บาท เดินทางประมาณ1ชั่วโมง30นาที
และนี่คือคู่หูที่ไปด้วยในทริปนี้ :)
เมื่อมาถึงเราก็ต้องไปติดต่อ ณ ที่ทำการอุทยาน เพื่อขอเช่าเต็นท์ ราคาเต็นท์ก็จะมีหลายราคาขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้บริการ สถานที่กางเต็นท์จะเห็นวิวสวยๆของแม่น้ำที่ทอดยาวออกไป และมีป่าเขาอยู่โดยรอบ
แต่เราก็ไม่รีรอ เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องไปเล่นน้ำตกสิ(ซึ่งตอนไปถึงก็บ่าย2เข้าไปแล้ว - -*)
ระหว่างทางก็พบกับผีเสื้อหลากหลายชนิด
มีหนอนอีกตัวนึง กว่าจะทำให้พื้นหลังเป็นสีดำก็ลำบากเอาการ
น้ำตกเอราวัณมีทั้งหมด7ชั้น ผมไม่ได้เล่นทุกชั้นนะเพราะเวลามันไม่พอ แต่เป้าหมายของเราอยู่ที่ชั้น7ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุดและอยู่สูงที่สุด ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันว่ารูปที่ถ่ายมาแต่ละรูปมีชั้นอะไรบ้าง กำเบย ;(
อันนี้น่าจะชั้น2
อันนี้ชั้น...ชั้นรักเธอ 5555555. ชั้นอะไรไม่รู้ลืมซะแล้ว
อันนี้ชั้นที่4 จริงๆแล้วน้ำจะใสและเป็นสีฟ้าเขียว แต่เนื่องจากก่อนที่พวกเราจะมาวันนึงมีฝนตกทำให้น้ำไม่ใสมากนัก
ในน้ำก็จะมีปลาพลวงว่ายอยู่เต็มไปหมด จากที่สังเกตรู้สึกจะมีทุกชั้นยกเว้นชั้นที่1
ระหว่างทางก็ไปพบกับ Euphaea orchracea orchracea แมลงปอเข็มน้ำตกสีน้ำตาลแดง เพศผู้
และตัวนี้น่าจะเป็นเพศเมีย
เจอหนอนผีเสื้อด้วย ไม่แน่ใจว่าเป็นหนอนของผีเสื้อหางตุ้มหรือเปล่า
ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวและจุดพักอยู่ สวยมากๆครับ
แล้วก็เจอด้วงตายอยู่ตัวนึง นี่คือ Trichogomphus martabani ด้วงแรดมะตะบัน เพศเมีย
น้ำตกชั้น7อยู่สูงมาก มากจริงๆครับ ถ้าใส่ผ้าใบมาลุยน่าจะสะดวกกว่าการใส่รองเท้าแตะ แถมยังต้องแบกกล้องไปอีก เดินไปก็ถ่ายโน่นถ่ายนี่จนถึงชั้น7พอดี สวยมาก ใสมาก และคนเยอะมากๆ - -*
แต่ยังไม่ทันจะลงเล่นก็16.00น.แล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่เค้าไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำแล้ว น่าเสียดาย :'(
ถ้าเค้าไม่ให้เล่นก็ต้องกลับละนะ ขากลับก็ใช่ว่าจะสบายเพราะเดินไปลื่นไปได้แผลอีกต่างหาก เจ็บๆๆ แต่ก็ลืมความเจ็บไปเลยเมื่อเจอกับต้นนี้ ต้นกระเช้าถุงทอง เป็นพืชอาหารของผีเสื้อหางตุ้มจุดชมพู ไม่ถึงกับหายากแต่ก็ไม่ง่าย เพราะต้นที่มีลักษณะแบบนี้มีหลายร้อยชนิด ต้องบี้ใบแล้วดมเอา
ในวันแรกก็หมดเพียงเท่านี้ กลางคืนก็ออกมาเดินเล่นหาแมลงไปเรื่อย ตอนแรกก็นึกว่าจะเจอเยอะแต่กลับไม่ค่อยมีตัวอะไรที่น่าสนใจให้ถ่าย เลยเข้านอนไปโดยปริยาย
รุ่งเช้าก็เดินศึกษาธรรมชาติในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ได้ความรู้มากมาย :)
เมื่อเที่ยงก็ถึงเวลาเช็คเอาท์และเดินทางกลับ ก่อนกลับก็แวะทานอาหารที่อุทยานก่อน(ทั้งโต๊ะ เธอคนนี้สั่งเองหมดเลยนะเนี่ย)
เมื่อทานเสร็จก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ขากลับจะนานกว่านิดหน่อยเพราะถึงตอนเย็นและรถค่อนข้างติด ควรออกประมาณ12.00-12.30น.
ลากันด้วยภาพนี้ครับ ต้องขอโทษด้วยที่มีรูปน้อยไปหน่อย แต่ครั้งต่อไปขอสัญยาว่าจะถ่ายเยอะกว่านี้แน่นอน ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่านครับ :')